วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คอมพิวเตอร์กับอาเซียน

คอมพิวเตอร์กับอาเซียน

คอมพิวเตอร์กับอาเซียน

อาเซียนก็เป็นอีกหนึ่งคำที่คนไทยรู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็เพิ่งรู้จัก แต่อีกหลายๆคนก็รู้จักคำนี้เป็นอย่างดีแล้ว ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศของกลุ่มประเทศอาเซียน คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่กำลังตื่นตัวและเป็นพลังสำคัญในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันทั้งทางตรงและทางอ้อม อีกทั้งไทยยังมีบทบาทมากมายด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในตัวอาเซียนเอง รวมไปถึงทั่วโลกอีกด้วย
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอาเซียน

อาเซียน(ASEAN) หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South East Asian Nations) เป็นองค์กรทางภูมิรัฐศาสตร์และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า เหลือเพียงตีมอร์ตะวันออก ที่เป็นประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ยังไม่เป็นสมาชิก แต่ก็พยายามที่จะเป็นสมาชิกอยู่
ในปัจจุบัน คิดเป็นพื้นที่ของกลุ่มประเทศอาเซียนประมาณ 4.5 ล้านตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 560 ล้านคน (ข้อมูลในปี พ.ศ. 2549) โดยส่วนใหญ่มีมีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 27-36 °C พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าฝนเขตร้อน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ส่งออกก็มีหลากหลายโดยเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์เกษตร มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง สับปะรด ยางพารา ปาล์มน้ำมันและพริกไทย
สำหรับเป้าหมายของการตั้งกลุ่มอาเซียนนั้น จากสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้มีการสรุปแนวทางของอาเซียนไว้จำนวนหกข้อ ดังนี
  1. ให้ความเคารพแก่เอกราช อำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียม บูรณภาพแห่งดินแดนและเอกลักษณ์ของชาติสมาชิกทั้งหมด
  2. รัฐสมาชิกแต่ละรัฐมีสิทธิที่จะปลอดจากการแทรกแซงจากภายนอก การรุกรานดินแดนและการบังคับขู่เข็ญ
  3. จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของรัฐสมาชิกอื่น ๆ
  4. ยอมรับในความแตกต่างระหว่างกัน หรือแก้ปัญหาระหว่างกันอย่างสันติ
  5. ประณามหรือไม่ยอมรับการคุกคามหรือการใช้กำลัง
  6. ให้ความร่วมมือระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่วนเรื่องเทคโนโลยีนั้น แต่ละประเทศก็มีเทคโนโลยีสารสนเทศและเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ที่แตกต่างกันพอสมควร ซึ่งแน่นอนว่าประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงสุดในอาเซียนก็คือ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีองค์กรที่ชื่อว่า The Agency for Science, Technology and Research ( A*STAR) เป็นหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะที่ให้การสนับสนุน การวิจัย พัฒนาทางการแพทย์และด้านวิทยาศาสตร์ที่มีความโดดเด่นทั่วโลก อีกทั้งสิงคโปร์ยังมีกองทัพทันสมัยที่สุดในอาเซียน
หลายคนอาจสงสัยว่าอาเซียนกับเทคโนยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์มีความเชื่อมโยงกับอย่างไร ให้ทุกคนนึกถึงเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่ง กลุ่มอาเซียนได้ให้ความสำคัญกับความร่วมมือในภูมิภาค อันประกอบด้วย "หลักสามประการ" ของความมั่นคง สังคมวัฒนธรรมและการรวมตัวทางเศรษฐกิจ การรวมกลุ่มกันในภูมิภาคได้ทำให้การรวมตัวทางเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าจะประสบความสำเร็จในการก่อตั้สิ่งที่เรียกว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ภายในปี พ.ศ. 2558 ประชาคมเศรษฐกิจดังกล่าวจะมีประชากรรวมกัน 560 ล้านคน และมูลค่าการค้ากว่า 1.4 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งหนึ่งในมูลค่าการค้าเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและ เรื่องของคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในส่วนของหมวดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือระหว่างกันของกลุ่มประเทศอาเซียนเกิดขึ้นมากมาย หนึ่งในนั้นคือ แผนแม่บทไอซีทีของอาเซียน 2015 (ASEAN ICT Masterplan 2015) ซึ่งมีจุดหมายสำคัญคือ จะใช้ไอซีทีในการขับเคลื่อนด้านสังคมและเศรษฐกิจในอาเซียน ไอซีทีจะช่วยการปฎิรูปอาเซียนให้เป็นตลาดเดียว ด้วยวิธีพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานไอซีทียุคใหม่ และพัฒนาทุนมนุษย์ที่มีฝีมือส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม จัดให้มีนโยบายส่งเสริม และสร้างสภาพแวดล้อมที่มีกฎระเบียบ ด้วยมาตรการดังกล่าว อาเซียนจะเสริมสร้างพลังให้แก่ชุมชน และผลักดันให้อาเซียนมีสถานภาพเป็นศูนย์กลางไอซีที ที่ครอบคลุมได้อย่างทั่วถึง และคืกคัก ส่งผลให้อาเซียนเป็นภูมิภาคที่เหมาะกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ


ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
คำว่าเทคโนโลยีหลายท่านน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันดี แต่ชาวบ้านทั่วไปอาจไม่ทราบความหมายที่แท้จริง เทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ หลายท่านอาจจะยังงงอยู่ อธิบายง่ายๆ เช่น ทรายที่เราเห็นอยู่ตามพื้นดิน ตามชายหาด ซึ่งมีธาตุที่มีชื่อว่าซิลิกอน ซึ่งแน่นอนทรายที่เราเห้นนี้อาจไม่มีค่า หรือมีราคาต่ำและเรามองข้ามไป เมื่อมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และจากจำนวนล้านๆทรานซิสเตอร์ก็บรรจุรวมกันเป็นไอซี (Integrated Circuit : IC) มีราคาสูงขึ้นมาจากทรายธรรมดามาก นั้นทำให้เทคโนโลยีจึงเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ
ส่วนคำว่าสารสนเทศ ความหมายง่ายๆก็คือ ความรู้ที่เราได้มาจากข้อมูลที่ผ่านการเลือกสรรให้เหมาะสมกับการใช้งานให้ทันเวลา และอยู่ในรูปที่ใช้ได้ ตัวอย่างเช่น ช่วงนี้ฝนตกบ่อย เป็นข้อความที่มีข้อมูลแต่ยังไม่ผ่านกระบวนการให้เหมาะสม แต่ถ้าเราบอกว่า ที่ปัตตานีตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนกันยายนเป็นฤดูร้อน นั่นเอง จึงเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์และผ่านการประมวลผลแล้ว ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ
ดังนั้นเราจึงสรุปได้สั้นๆว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ ก็คือ การพัฒนาด้านต่างๆเพื่อใช้กับข้อมูลข่าวสาร อาทิเช่น    การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้อาจจะรวมไปถึงการสร้างระบบต่างๆ เช่น ระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
ในยุคปัจจุบันไม่ว่าเราจะหาข้อมูล ติดต่อ ค้นหา ศึกษาระหว่างกัน ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ไม่ว่าใกล้ไกลอย่างไรก็ต้องผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศนั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

สไคป์ (Skype)

สไคป์ (Skype) เป็นโปรแกรม ติดต่อส่วนบุคคล
ผ่านอินเตอร์เน็ต ใช้พูดคุย ผ่านตัวอักษรโต้ตอบกันได้แบบทันที (เหมือนโปรแกรม msn yahoo icq) จุดเด่นของสไคป์ คือ การใช้งานเป็นโทรศัพท์ โทรติดต่อผู้อื่นที่ไม่ได้ใช้สไคป์ หรืออินเตอร์เน็ต โทรไปได้ทั้งเบอร์มือถือ และเบอร์พื้นฐานทั่วไป โดยเสียค่าใช้จ่ายเป็นแบบเหมาจ่าย เป็นเดือน ประมาณ 300บาท ซึ่งถือว่าถูกมากๆ โทรไปได้ทุกเครือข่าย 24ชม.
นอกจากนี้สไคป์ยังสามารถส่ง SMS ไปได้ทั่วโลกในอัตราที่ถูกแสนถูก หรือจะใช้ในการพูดคุยกันเป็นกลุ่ม สนทนาพร้อมกันได้ ประมาณ20กว่าคน ใช้ทำวิดีโอคอนเฟอเรนท์ จะได้ภาพและเสียงที่ชัดเจนมาก.
การติดตั้งและการใช้งาน Skype 
 ทุกวันนี้การติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ในโลกปัจจุบัน มีการโทรศัพท์ติดต่อทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งทำให้ค่าโทรศัพท์ในแต่ละเดือนเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ในเวลานี้หลายๆท่านอาจจะกำลังมองหาวิธีที่จะช่วยให้ท่านประหยัดค่าโทรศัพท์กันอยู่ ทางเราจึงมีโปรแกรมที่น่าสนใจมานำเสนอนั่นก็คือ โปรแกรม Skype นั่นเอง Skype เป็นโปรแกรมโทรศัพท์ฟรีผ่านทางอินเทอร์เน็ตจากคอมพิวเตอร์ไปหาคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น หรือจะโทรผ่านคอมพิวเตอร์ไปหาโทรศัพท์ หรืออาจจะโทรผ่านโทรศัพท์ที่มีโปรแกรม Skype อยู่ในตัว (Skype Desktop Phone) ไปหาโทรศัพท์เครื่องอื่นก็ได้ แต่ในกรณีหลังเราอาจจะต้องเสียค่าใช้บริการค่ะ เรามาเริ่มศึกษาวิธีติดตั้งและวิธีใช้โปรแกรม Skype กันดีกว่านะคะ. 

จุดเด่นของโปรแกรม Skype
  • ดาวน์โหลดฟรี !
  • ผู้ใช้บริการสามารถทำการโทรศัพท์ฟรีๆ ระหว่างสมาชิก ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ทั่วโลก
  • คุณภาพเสียงดีเยี่ยมเหมือนใช้โทรธรรมดา เสียงตอบกลับของคู่สนทนาชัดเจน
  • รองรับการใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์, Pocket PC
  • เป็นชุมชนขนาดใหญ่ ทำให้สามารถค้นหาเพื่อนใหม่ๆได้ง่ายๆ จากทั่วโลก
  • สามารถโทรเข้าจากโทรศัพท์พื้นฐานเข้ามายัง Skype ได้ (SkypeIn)
  • สามารถโทรออกจาก Skype เข้าไปยังโทรศัพท์พื้นฐานได้ (SkypeOut)
  • สามารถโอนสายเรียกจาก Skype เข้าไปยังโทรศัพท์พื้นฐานปลายทางได้ (เฉพาะลูกค้าที่ใช้ SkypeOut)

  • ประเภทของ Skype 

    1. โทรระหว่างสมาชิก Skpye ด้วยกันเอง (PC-to-PC) เป็นบริการฟรี
    2. โทรไปยังเบอร์โทรศัพท์ทั่วไปหรือโทรมาจากโทรศัพท์ทั่วไป (PC-to-Phone และ Phone-to-PC) แบ่งเป็น-SkypeIn คือ การสมัครเบอร์ของ Skype เพื่อรองรับการโทรเข้าจากโทรศัพท์พื้นฐานทั่วโลกในราคาประหยัด
    -SkypeOut คือ การสมัครใช้บริการของ Skype เพื่อโทรออกจาก Skype ไปยังโทรศัพท์พื้นฐานทั่วโลกและ ที่พิเศษกว่านั้นคือ ผู้ใช้งานที่ลงทะเบียน SkypeOut สามารถ Forward Skype ของคุณ เข้าไปยังโทรศัพท์พื้นฐานที่คุณต้องการได้ในขณะที่คุณ Offline เมื่อมีผู้โทรเข้า Skype ของคุณ ช่วยทำให้คุณไม่พลาดการติดต่อ

    โดยบริการประเภทที่ 2 เป็นบริการสำหรับสมาชิกที่เสียเงินเท่านั้น โดยค่าใช้จ่ายจะคิดแบบชำระเงินล่วงหน้าหรือ Prepaid คล้ายๆ กับโทรศัพท์แบบบัตรเติมเงินบ้านเรานั่นเอง หากแต่ว่าค่าบริการจะถูกกว่าประมาณ 60-80%

    วิธีการเรียกใช้งาน Skype

    หากผู้ใช้งานทำตามขั้นตอนในการติดตั้งโปรแกรมดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ผู้ใช้งานก็สามารถที่จะเรียกใช้งานโปรแกรม Skype ได้ 2 วิธีหลักๆ ด้วยกันคือ 

    1.) เรียกใช้งานได้จาก Status Bar ดังรูป
    การเล่น skype
     
    2.) หรือหากผู้ใช้งานท่านใดได้ตั้งค่าไม่ให้ Skype เปิดขึ้นมาพร้อมกับการเข้าสู่วินโดว์ ก็สามารถที่จะเรียกใช้งาน Skype ได้จากไอคอนดังรูป
    เล่นสไกป์


    หน้าตาของโปรแกรมสไกป์ Skype  
     
    1.) เมนูบาร์ เป็นส่วนที่ใช้สำหรับเรียกคำสั่งการทำงานในโปรแกรม Skype ทั้งหมด
    2.) ทูลบาร์หากเมนูบาร์เรียกใช้งานยุ่งยาก ทูลบาร์นี่แหละครับที่จะทำให้การทำงานของเราง่ายขึ้นเพียงคลิกแค่ครั้งเดียว
    3.) แท็บใช้งานหลัก เหล่านี้เราจำเป็นต้องคุ้นเคยเอาไว
    - Start เป็นแท็บแรกที่จะให้เราทราบทันทีว่าเรามีอะไรรออยู่ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ติดต่อของคู่สนทนา หรือMessage ที่รอการอ่าน
    - Start เป็นแท็บแรกที่จะให้เราทราบทันทีว่าเรามีอะไรรออยู่ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ติดต่อของคู่สนทนา หรือMessage ที่รอการอ่าน
    - Friends รายชื่อเพื่อนๆ ในรายการ (List) ที่เราเคยเก็บบันทึกเอาไว้ คล้ายสมุดโทรศัพท์นั่นแหละ
    - Logs เป็นการเก็บบันทึกสถานการณ์ติดต่อของเรา ซึ่งก็คือรายชื่อของผู้ที่เราเคยติดต่อนั่นเอง
    4.) แท็บพาเนล เป็นส่วนที่แสดงรายละเอียดของการทำงานในแต่ละแท็บ
    5.) รายการชื่อที่เราเคยติดต่อ และหากต้องการติดต่อไปยังรายชื่อของคู่สนทนาอื่น ณ.การใช้งานส่วนนี้จะเก็บรายชื่อของผู้ที่เคยติดต่อไว้ให้เรียกใช้อย่างรวดเร็วที่นี่
    6.) ปุ่ม Call ผู้ใช้งานน่าจะได้ใช้ส่วนนี้ค่อนข้างจะบ่อยหน่อยนะ ซึ่งปุ่มนี้จะทำหน้าที่ในการโทรออกหรือเอาไว้รับสายกรณีที่มีผู้ติดต่อเข้ามา
    7.) ปุ่ม Hangup ครับ เมื่อมีปุ่มโทรออกก็ต้องมีปุ่มวางสายครับ ซึ่งปุ่มนี้จะทำหน้าที่ในการโทรออกหรือเอาไว้รับสายกรณีที่มีผู้ติดต่อเข้ามา
    8.) ส่วนแจ้งสถานะ ในการใช้งานโปรแกรมประเภท Instant Massager แทบทุกโปรแกรมส่วนนี้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องแจ้งไว้เพื่อบ่งบอกสถานการออนไลน์ของเราครับ ซึ่งหากจะว่าไปแล้วส่วนนี้ยังบ่งบอกถึงมารยาทในการใช้โปรแกรมประเภท Instant Messenger อีกด้วยนะการค้นหารายเพื่อนคุย
    ณ.ปัจจุบัน (ขณะที่กำลังเขียนเนื้อหา) มีสมาชิกที่ลงทะเบียนกว่าหนึ่งล้านห้าแสนคนทั่วโลก ซึ่งไม่ต้องห่วงเลยว่าเราจะไม่มีเพื่อน ผู้ใช้งานสามารถค้นหาเพื่อนได้ง่ายๆ โดย

    1.) คลิกเลือกเมนู Tool > Find a Friend.. หรือจะคลิกไปยังปุ่มดังรูปหรือ จะคลิกไปยัง Find a Friend มุมซ้ายด้านล่างของแทบ Start ก็ได้


     
    2.) จะปรากฏหน้าต่างในการค้นหา ให้ผู้ใช้งานใส่ชื่อของเพื่อนที่ต้องการค้นหาแล้วคลิกที่ปุ่ม Find


     
    3.) หากยังหาเพื่อนเราไม่พบก็คงต้องใช้ฟังก์ชั่นพิเศษในการค้นหา โดยคลิกที่ปุ่ม Advanced


     
    4.) เอาล่ะเมื่อเจอเพื่อนที่ถูกใจแล้ว ก็คลิกเมาส์ขวาไปยังเพื่อนใหม่คนนี้


     
    - Add to Friends List เก็บรายชื่อลง List ซะเลย
    - View User Profile รู้เขารู้เราก็ไม่เสียหาย
    - Call โทรซะเลย (อยากคุยเต็มแก่แล้ว)
    - Send a Text Message หากต้องการ Chat ก็เลือกที่นี่ หรือผู้ใช้งานจะใช้ปุ่มที่อยู่ด้านล่างก็ไม่ถือว่าไม่ผิดกติกาครับ ซึ่งปุ่มด้านล่างน่าจะได้ใช้งานค่อนข้างจะบ่อยกว่าการคลิกเมาส์ขวา เพราะเป็นง่ายกว่านั่นเองการเก็บรายชื่อลงลิสต์
    สำหรับเพื่อนมากมายของเราเมื่อคุยแล้วถูกใจก็คงอยากจะเก็บไว้ในลิสต์ เผื่อวันหน้าจะได้มาคุยใหม่ ผู้ใช้งานสามารถที่จะจัดเก็บรายชื่อได้โดย
    1.) ในระหว่างการสนทนาผู้ใช้งานสามารถเก็บรายเพื่อนลงในลิสต์ได้โดยคลิกที่ปุ่ม Add to Friends List ดังในรูป


     
    2.) รายชื่อจะถูกบันทึกลงในลงในแทบ Friends รอการติดต่อในวันข้างหน้า
     


     
    หรือหากผู้ใช้งานได้ทำการค้นหาเพื่อนๆ โดย
    1.)ใช้เมนูคำสั่ง Tool > Find a Friend..


     
    2.) เสร็จแล้วก็สามารถที่จะเก็บเพื่อนๆ ของเราไว้ในลิสต์ได้เลยครับโดย คลิกที่ชื่อของเพื่อน


     
    3.) จากนั้นก็คลิกที่ปุ่ม Add a Friends ที่อยู่ด้านล่างครับ ชื่อของเพื่อนก้จะเข้าไปอยู่ใน List

    ต่อไปเราก็จะเริ่มไปคุยกันนะ :))